วันอังคารที่ 17 พฤษภาคม พ.ศ. 2554

มือใหม่ทำเต็นท์รถมือสอง เขาเอารถจากไหนมาขาย มีคำตอบ Thai used car seller

          สำหรับมือใหม่ที่สนใจทำเต็นท์รถมือสองนะครับ  สำหรับมืออาชีพผ่านไปได้เลยครับ  มิบังอาจเอามะพร้าวห้ามมาขายสวน

          แน่นอน ทางแรก  มีคนมาขายที่เต็นท์รถ
                       ทางสอง  รับซื้อตามบ้านที่เขาติดป้าย
                       ทางสาม  ลงประกาศรับซื้อตามนิตยสาร/หนังสือพิมพ์
                       ทางที่สี่  เต็นท์รถด้วยกันมาฝากขาย
                       ทางที่ห้า  ประมูลรถที่ยึดมาจากกรมศุลกากร
                       ทางที่หก   ที่ผมจะพูดถึงในวันนี้   ไปประมูล  ตามบริษัทที่เขาเปิดประมูลรถ

   ที่จะมีประโยชน์กับมือใหม่ก็คือ  ประมูลนี่แหละครับ
   แหล่งประมูลมีดังนี้ครับ
   1.สหการประมูล
   2.แอปเปิ้ล โอโต้ อ๊อคชั่น
   3.ธนชาติประมูลรถ
   4. แมนไฮมน์ เอเชีย แปซิฟิค
   5.สากลการประมูล
  6.ไทยพาณิชย์การประมูล
            อาจมีที่อื่นอีกนะครับ  แนะนำพอเป็นตัวอย่าง  เวปไซต์แต่ละเจ้าอยู่ทางไหนผมขี้เกียจพิมพ์  เพราะขนาดคุณเปิดหน้าเวปผมเจอ  แค่ค้นหา  "ประมูลรถ"  มันก็ออกมาหมดแล้ว
          แล้วรถที่เขาเอามาประมูล  มาจากไหน
      1.(ส่วนน้อย) เจ้าของรถบ้านมาฝากประมูล  โดยคิดค่าดำเนินการประมาณ 1,000 บาท
      2.ไฟแนนท์ที่ยึดรถที่ขาดผ่อน  นำมาขายทอดตลาด (อันนี้น่าพิจารณา)
      3.บริษัทประกัน  นำมาขาย  พวกนี้สภาพอาจจะดูไม่ดี  เต็นท์มืออาชีพจะซื้อได้ในราคาถูก  และเอาไปแปลงโฉม  แล้วขายได้กำไรงาม

       วันนี้พอแค่นี้ก่อนดีกว่า  ครั้งหน้าจะอธิบายวิธี/ขั้นตอน/ค่าใช้จ่าย/เทคนิกการประมูล  อย่าลืมติดตาดนะครับ   สนใจทำเต็นท์รถมือสองต่างจังหวัด  ฝากเมล์ไว้ได้ครับ  

วันเสาร์ที่ 30 เมษายน พ.ศ. 2554

เช็คลิสต์สำหรับเลือกรถมือสอง checklist for used car

บตรวจรับรถมือสอง..มีประโยชน์ 
    [ 24/02/2009 ] - [ 636 ] 
 

เจอแบบฟอร์ม ขั้นตอนตรวจเช็ครถยนต์ มีประโยชน์ดี ช่วยให้มีความละเอียด
ในการรับรถ
ภายนอก ผ่าน ไม่ผ่าน หมายเหตุ
สีรถดูในที่ร่ม (ต้องไม่มีรอยบุบ ลักยิ้ม)
สภาพกระจก O หน้า O หลัง O ประตู 4 บาน
สภาพรอบคัน
สภาพกันชน O หน้า O หลัง
สภาพไฟ O หน้า O หลัง O เบรค O เลี้ยว O ตัดหมอก
ขอบประตูทั้ง 4 บาน
Seal ยางขอบประตูทั้ง 4 บาน (แน่น ไม่เหนียว)
เปิด-ปิด O กระโปรงหน้า O หลัง O ฝาน้ำมัน O ประตู 4 บาน
ที่ล็อคเด็กประตูหลัง
ขนาดยาง ปีที่ผลิต
ท้ายรถ O ล้ออะไหล่ O แม่แรง O ประแจ
ภายใน
สภาพเบาะ ต้องไม่ฉีกขาด ไม่มีรอยเลอะ
หน้าปัทม์ O ความเร็วรอบ O ความเร็ว O น้ำมัน O ความร้อน
ลายไม้
Front Central Panel
ช่องเก็บของ เปิด-ปิดได้ดี
เข็มขัดนิรภัยทุกจุด (ลองปรับ-กระตุก)
ปรับ O เบาะคู่หน้า O ที่รองศีรษะ
อุปกรณ์ O พรมปูพื้น O ผ้ายาง
ทดลอง O แป้นเบรค O คันเร่ง O เบรคมือ
ปุ่มเปิด O กระโปรงหน้า O หลัง O ฝาน้ำมัน
ระบบไฟฟ้า
เปิด-ปิด O ไฟหรี่ O ไฟหน้าปัทม์ O ไฟหน้า O ไฟสูง O ไฟตัดหมอก
เปิด-ปิด O ไฟหลัง O ไฟเบรค O ไฟถอยหลัง
เปิด-ปิด O ไฟเลี้ยว O ไฟฉุกเฉิน
ใช้งาน O ที่ปัดน้ำฝนทุกจังหวะ O ที่ฉีดน้ำล้างกระจก
กดแตร
เปิด-ปิด ไล่ฝ้า (ลองกดที่กระจกต้องร้อน)
หมุนพวงมาลัยจนสุด 2 ด้าน (ต้องไม่มีเสียง)
ปรับพวงมาลัย ใกล้-ไกล สูง-ต่ำ
ลองเล่นวิทยุ-เทป-CD
ฟังลำโพงทุกจุด
นาฬิกา
กระจกไฟฟ้าปรับขึ้น-ลงได้สุดทุกด้าน
กระจกข้าง O ปรับได้ทุกทิศ O หุบได้
สัญญาณแสดงเตือน O ประตูเปิด O คาดเข็มขัด O เบรคมือ
การใช้งาน O กุญแจรีโมท O Central Lock
ไฟแสดงตำแหน่งเกียร์
ระบบปรับอากาศ
ปรับระดับแรงลมทุกระดับ
ปรับความเย็น-ร้อนของ Air
ปรับช่องลมเปิด-ปิด
ปรับครีบช่องลม
ช่องแช่เย็นด้านหน้า
ห้องเครื่อง
ใต้ฝากระโปรงหน้า
สภาพห้องเครื่อง
สายพานต่างๆ
O น้ำมันเครื่อง O น้ำมันเบรค O น้ำมันเกียร์ O น้ำมันพวงมาลัยเพาเวอร์
O น้ำกลั่นแบตเตอรี่ O น้ำหม้อน้ำ O น้ำฉีดกระจก
Strat - ฟังเสียงเครื่องยนต์
เร่งเครื่อง - ฟังเสียงเครื่องยนต์จากห้องโดยสาร
เอกสาร
สมุดทะเบียนรถ
หมายเลขเครื่องยนต์ หมายเลขตัวถัง ตรงกับสมุดทะเบียนรถ
ใบโอนรถ
O เอกสารประกันภัย O พรบ.
O สมุดคู่มือป้ายแดง O ทะเบียนป้ายแดง
คู่มือรถ
เอกสารการรับประกันอุปกรณ์ และเช็คระยะฟรี
ของแถมต่างๆ ตามที่ตกลงกันไว้
ใบเสร็จรับเงินค่า Down

ดูยังไง ว่ารถที่จะซื้อโดนน้ำท่วมรอบที่แล้วหรือไม่ ไม่รู้อ่านดู flooded car

จากเหตุการณ์น้ำท่วมที่ผ่านมาเมื่อช่วงปลายปีนั้น ที่ส่งผลให้รถจำนวนมากหลายคันจมอยู่ใต้บาดาลและแน่นอนว่า มันย่อมไม่ใช่รถที่คุณควรมองและเลือกหามาใช้เป็นรถคู่ใจคันต่อไป แม้รถพวกนี้หลายๆคันจะซ่อมและวิ่งใช้งานได้ ทว่ามันก็จะมีส่วนอื่นๆที่เสียหายได้ตามมา และเจ้าของรถในเขตที่ประสบภัยหลายคนจึงตัดสินใจขายรถยนต์ และนำมาสู่วงการรถยนต์มืองสอง
อีกครั้งที่นี่เป็นมหาวิปโยคของวงการรถมือสอง เพราะไม่มีใครที่อยากจะใช้รถยนต์ที่ถูกน้ำท่วมและได้รับความเสียอย่างหนัก แต่นี่อาจเป็นโอกาสของใครบางคนที่รู้จักเปลี่ยนวิกฤติเป็นโอกาสและมันทำให้รถที่ถูกน้ำท่วมหลายคันเข้าสู่เต๊นท์รถมือสอง
นี่เป็นข่าวล่ามาเร็ว และเราอยากให้หลายคนที่กำลังมองหารถมือสองคันใหม่มาขับได้รู้ เพราะเราไม่แน่ใจว่าคุณอาจจะเจอแจ๊คพอทหรือไม่ และวันนี้เราจะพาไปรู้จักรถมือสองที่ถูกน้ำท่วมว่าดูอย่างไรจึงจะรู้
1.จับจุดตัวถัง สิ่งแรกที่เราสามารถเห็นได้และพอที่จะเดาประวัติว่ารถคันนั้น ถูกน้ำท่วมมาหรือไม่ควร เริ่มจากที่ตัวบอดี้รถกันก่อน ซึ่ง หากมีจุดที่ผุหรือเกิดสนิมในบริเวณที่ไม่ควรจะเกิด ให้สันนิษฐานกันก่อนเลยว่า รถคันดังกล่าวนั้นถูกน้ำท่วมมา โดยดูจากรอยจะเข็บตัวถัง ในจุดต่างๆ โดยเฉพาะ ใต้ท้องรถ อันนี้ของมันฟ้องกันอยู่แล้ว ดูได้ง่ายๆไม่ยาก โดยเฉพาะในพวกชุดช่วงล่างหรือใต้ท้อง ยิ่งแชสซีนี่ใช่เลย
2. กลิ่นห้องโดยสาร ตามปกติแล้วบรรดาผู้จัดจำหน่ายรถยนต์มือสองในปัจจุบันจะมีการปรับปรุงรถก่อนมาตั้งจำหน่าย และแน่นอนว่า มันยากที่จะทำให้เรารู้ว่า รถยนต์คันดังกล่าวนั้นถูกน้ำท่วมมาหรือไม่ ซึ่งตามปกติแล้ว เบาะ พรม และทุกอย่างจะถูกนำออกไปซัก เพื่อขจัดคราบต่างๆ แต่สิ่งหนึ่งที่อยากจะจำกัดคือ กลิ่นในห้อง โดยสาร ที่จะติดรถอยู่อย่างนั้น เนื่องจากน้ำที่ท่วมนั้นเป็นน้ำโคลน กลิ่นต่างๆจะอยู่เป็นเวลานานและถือเป็นหลักฐานที่สำคัญ
3. เครื่องยนต์ช่วยชี้แนะ เครื่องยนต์เป็นอีกจุดหนึ่งที่มีความสำคัญในการบ่งบอกประวัติรถยนต์คันนั้น และกับในกรณีน้ำท่วมเช่นกัน ที่เครื่องยนต์คงจะถูกยกออกมาถอดประกอบเพื่อล้างไส้ในจากน้ำโคลนที่เข้าไป แต่หลายๆอู่ มักจะไม่นิยมเปลี่ยนน๊อตตัวเครื่องยนต์ใหม่สักเท่าไรนัก และ เมื่อเหล็กอยู่ในน้ำเป็นเวลานานๆ น๊อตก็จะเป็นสนิมหรือมีร่องรอยการยากาวในการถอดประกอบเครื่อง โดยเฉพาะ ส่วนฝาสูบ หรือไม่ถ้ามีความรู้สึกว่าเครื่องยนต์มันดูใหม่เกินไปนั้น ให้ลองดูอย่างละเอียดดี เพราะบางครั้ง เขาก็ใช้วิธีเปลี่ยนเครื่องเอาก็เป็นไปได้
4. ระบบไฟฟ้า อีกประการที่แก้ไม่จบ น้ำกับไฟฟ้าไม่ใช่ของถูกกัน และแน่นอนว่า มันหมายถึงระบบไฟฟ้าภายในรถที่อาจจะมีปัญหาเกิดขึ้นได้ ระบบไฟฟ้าในรถยนต์ปัจจุบันถือว่าละเอียดอ่อนมาก และถ้ารถคันดังกล่าว มีอาการประเภทเดี๋ยวดีเดี๋ยวร้าย อย่าง กระจกไฟฟ้า แล้วทำงานบ้างไม่ทำงานบ้าง อันนี้สันนิษฐานได้ว่า อาจเคยจมน้ำมา เนื่องจากความชื้นที่ยังจับตัวแน่นในแผงวงจรทำให้เกิดการทำงานที่ผิดปกติ และมันมักจะทำให้รถคันดังกล่าว มีปัญหาแบบแปลกๆ

ทั้งหมดนี้เป็นหลักการเบื้องต้นในการดูรถมือสอง ว่าจมน้ำมาหรือไม่ เพราะรถเหล่านี้ ถ้าซ่อมมาไม่ถึงก็จะไม่จบ แม้จะไม่ใช่รถอุบัติเหตุก็ตาม อย่างไรก็ดีการซื้อรถมือสอง ถ้าจะให้ดียิ่งขึ้นควรจะให้ผู้ชำนาญการไปร่วมในการพิจารณา ก่อนการตัดสินใจการซื้อรถ

10 วิธีดูรถมือสองก่อนซื้อ checklist before buy used car

10 วิธีง่ายๆ ดูรถมือสองก่อนจะซื้อ
1. ส่วนภายในด้านหน้าและระบบไฟฟ้า เมื่อเราได้ลองนั่งที่นั่งคนขับ ทุกส่วนที่อยู่ในแผง Console เราต้องตรวจสอบว่าทุกอย่างสามารถทำงานได้ดีหรือไม่
2. ส่วนภายในด้านหลังและระบบการทำงาน ส่วนใหญ่บริเวณนี้ก็คงต้องตรวจสอบสภาพเบาะภายใน อุปกรณ์ที่มีอยู่ด้านหลัง
3. ตรวจสอบตัวถังรถ สำหรับบางท่านที่ไม่คุ้นเคยอาจจะยากสักหน่อย แต่เคล็ดลับง่าย ๆ หาเพื่อนที่ใช้รถ รุ่นที่เราหมายตาไว้ ให้ช่วยดูให้ ด้วยความคุ้นเคยเพื่อนจะสามารถบอกเราได้ถึงร่องรอยที่ผิดปกติ แต่ถ้าหาคนรู้จักไม่ได้ ก็คงต้องอาศัยผู้ขายที่มีมาตรฐานไว้ใจได้เท่านั้น
4. เปิดฝากระโปรงหน้า คราวนี้ดูจะยากขึ้นไปอีกขั้น แต่เบื้องต้นดูง่าย ๆ ว่ามีคราบน้ำมันรั่วซึมอยู่หรือไม่ ที่ชี้ให้คุณรู้ว่าคุณกำลังซื้อรถมาขับ หรือซื้อมาซ่อม ถ้าจะให้ดีหาคนที่มีความรู้ไปช่วยจะดีกว่ามาก
5. ยกรถขึ้น ขั้นตอนนี้ต้องใช้เครื่องมือเข้าช่วย แต่ถึงอย่างไรก็สำคัญมากที่สุด ต้องตรวจดูทุกจุดที่อยู่ใต้ท้อง เพราะนั่นหมายถึงชีวิตและทรัพย์สินของคุณทีเดียว
6. เดินเครื่องยนต์ สำรวจฟังเสียงรบกวน ลองหมุนพวงมาลัยดูราบลื่นดีหรือไม่ ฟังเสียงที่เกิดขึ้น ช่วงนี้ตรวจสอบระบบเกียร์ดูว่าผิดปกติหรือไม่ เพราะเป็นระบบที่เสียค่าใช้จ่ายสูงมากหากเกิดเสียขึ้นมา
7. ประตูหลัง ท้ายรถ ตรวจการทำงาน ดูอุปกรณ์ประจำรถ จุดนี้สามารถดูได้ว่ารถเคยถูกชนหลังหรือไม่ และอุปกรณ์ทำงานได้อย่างดีหรือเปล่า
8. ขับทดสอบ คงเป็นไปได้ยากถ้าคุณจะต้องตัดสินใจซื้อรถโดยไม่ทำการทดสอบเสียก่อน การขับทดสอบก็เพื่อดูระบบเกียร์ ระดับเสียงรบกวน ระบบเบรก ล้อและช่วงล่าง รวมทั้งการทำงานของหน้าปัดบอกความเร็วและระยะทาง
9. หลังลองขับ แล้วกลับมาดูใต้ท้องใหม่อีกครั้ง ว่ามีรอยรั่วซึม หรือชำรุดที่ใต้ท้องหรือไม่
10.ขาดไม่ได้เลย   คือเอกสาร คู่มือผู้ใช้ สมุดทะเบียน การตรวจสอบประวัติบริการ กุญแจ รีโมท

10 วิธีที่ผมบอกไปนี้เป็นเพียงการตรวจเช็คง่ายและคร่าวๆ ในการตรวจสอบเท่านั้น แต่ถ้าผู้อ่านต้องการจะซื้อจริงๆ ผมแนะนำให้หาช่างใกล้ๆ บ้านไปด้วยแล้ว เอา 10 ขั้นตอนนี้ไปทำเป็น Checklist เพื่อกันลืมนะครับ



จำไว้ว่า ทุกอย่างต้องอาศัยประสบการณ์เคียงคู่กับหลักการ แน่นอน มันไม่สามารถการันตีได้ว่าเมื่อคุณทำตามสิ่งที่เราบอกแล้ว จะได้รถดี แต่อย่างน้อยมันก็ช่วยให้เรารู้ประวัติรถได้ในระดับหนึ่ง และมันก็ช่วยให้คุณไม่ตกเป็นเหยื่อ พวกย้อมแมวขาย
1.อย่าเลือกรถเกิน 10 ปี จงจำไว้เลยว่า รถยิ่งอายุมาก ยิ่งแก่ ยิ่งมีคนใช้งานมาก ย่อมมีค่าซ่อมเพิ่ม ในบรรดาข้อแรกของคำแนะนำนี้ เรารู้ว่าอาจไม่ใช่ทุกคนที่ทำได้ แต่ถ้ามีโอกาส คุณควรเลือกรถที่มีอายุไม่เกิน 10 ปี เพราะรถจะไม่ช้ำมากนัก เมื่อเทียบกับรถรุ่นอื่น

ๆ2.ตัวถัง เรื่องสำคัญที่ต้องเช็ค หลังจากเราเลือกที่เราอยากได้แล้ว ทีนี้ได้เวลาตรวจสอบรถกัน แน่นอนมันไม่ง่ายนัก แต่ก็ไม่ได้ยากจนเหลือบ่ากว่าแรงในการตรวจเช็ค บอดี้ที่จะเป็นสิ่งแรกซึ่งจะระบุว่ารถคันดังกล่าวเป็นเช่นไร
วิธีตรวจสอบตัวถังนั้นให้เราดูว่าสีมีความสดใหม่เกินไปหรือไม่ มีรอยแตกลายงาหรือไม่ หรือ ปูด ซึ่งเป็นสิงที่บ่งบอกถึงสนิม และแน่นอนลองตรวจรอบรถ ด้วยสายตาแล้วเคาะเพื่อดูความหนาของสีโป๊ว รวมถึงการเปลี่ยนอะไหล่บางอย่างที่เราสามารถสังเกตได้อย่างชัดเจน
33.เครื่องยนต์..ไม่ต้องกิ๊บแต่ตามสภาพ หลายคนที่ดูรถใหม่ชอบคิดว่ารถที่ดีจำต้องมีเครื่องที่สะอาดกิ๊บ แต่ความจริงแล้วไม่ใช่ เพราะ เครื่องที่สะอาดไป อาจหมายถึงการที่เต๊นท์หรือร้าน เก็บงานมาแล้ว และมันยากที่จะตรวจสอบสภาพเครื่อง แน่นอน เครื่องยนต์ดูแต่ตาไม่ได้ ต้องลองเดินเครื่อง แต่ก่อนอื่นต้องลองเช็คว่าน้ำมันเครื่องมีกลิ่นไหม้จากไม้วัดรึเปล่า รวมถึงรอยซึมของปะเก็นตามชิ้นส่วนต่างๆ และที่สำคัญ พวกชุดสายไฟ ดูด้วยว่ามีลักษณะการเสื่อมสภาพมากน้อยเพียงใด ถ้ามองแล้วสายไฟใหม่เกินไป อาจเป็นได้ที่รถคันนั้นจะมีปัญหาท้องรถ ตามซุ้มล้อ ด้วย ซึ่งเป็นจุดที่อ่อนไหวมากที่สุด และมันพอบอกได้ในระดับหนึ่งว่ารถคันนี้เคยเกิดอุบัติเหตมาหรือไม่ ??

4.ทดลองขับ ..สำคัญและต้องทำ ทุกวันนี้เต๊นท์รถหลายเจ้า เริ่มมีการให้ทดลองขับรถของร้านได้แล้ว และมันคงเป็นโอกาสที่ดีสำหรับเราผู้บริโภค ที่จะได้มีโอกาส ในการเลือกมากขึ้น แน่นอนการขับบอกได้ทุกอย่างเกี่ยวกับรถ 1 คัน ทั้งความเหมาะสมกับตัวเราไปจนถึงสมรรถนะและสภาพของรถ ซึ่งเราต้องทดสอบทุกอย่างและใช้ช่วงเวลานี้ให้เป็นประโยชน์ที่สุด

5.ไมล์ดูได้ ..แต่ต้องมององค์ประกอบ หลายคนที่ไปดูรถมักติดที่ว่ารถคันนี้วิ่งมาเท่าไร และแน่นอนคิดว่า ไมล์ที่หน้าปัดจะสามารถช่วยได้ แน่นอน รถที่วิ่งมามากย่อมหมายถึงเสื่อมสภาพมาก แต่ในความป็นจริงระยะที่วิ่งมาอาจไม่ได้บอกทุกอย่าง เท่าสภาพโดยรอบ เช่นการใช้งานของโดยสาร โดยเฉพาะพวงมาลัย จะบอกได้ดีว่ารถคันนั้น ผ่านศึกมามากน้อยเพียง เช่นเดียวกับยาง ถ้ามันดูใหม่เกินไมล์นั่นอาจหมายความว่า รถคันนั้นเจอคนขับทีนหนักเข้าให้ แล้วคุณจะเสี่ยงซื้อหรือ

ทั้ง ข้อ นี้ เป็นหลักการเบื้องต้น ที่ช่างดูรถทุกคนก็ใช้ แต่แน่นอน หลักการสามารถดูได้แต่ประสบการณ์มันเป็นเรื่องที่ไม่เหมือนกัน ซึ่งคุณควรจะพิจารณาว่า รถคันนั้นเหมาะที่จะเป็นเจ้าของหรือไม่ ทั้งหมด อยู่ที่ตัวคุณเท่านั้น


วันเสาร์ที่ 8 มกราคม พ.ศ. 2554

รวยด้วยรถมือสอง:คำถามเริ่มต้นคนอยากทำเต้นท์รถ

คำถามและคำตอบ
 1 ต้องใช้เงินลงทุนเท่าใด
ตอบ  เงินทุนมีเท่าไหร่ ก้อ ลงไปเถอะครับ ขั้นต่ำ มันขึ้นอยู่กับขนาดของกิจการของคุณนั่น แหล่ะ คำตอบของเงินทุนจะอยู่ที่ ข้อ ถัดๆ ไปตอบ:
 2 ถ้าขาดเงินทุนต้องกู้เงินจากแหล่งเงินกู้ใด
 3 อัตราดอกเบี้ยเงินกู้มากน้อยแค่ไหน
ตอบ  2-3. เงินกู้มีทั้งในระบบ และนอกระบบ ในระบบ คือ กู้ธนาคาร ดอกเบี้ยตามที่ ธนาคารกำหนด เงินกู้ นอกระบบ ก้อคือจากพ่อค้าในตลาดรถยนต์ นั้น ๆ อยู่ที่ ประมาณ 1.75 - 2.50 บาท/เดือน (ระบบการวางเล่มทะเบียน และใช้เช็คค้ำ)
 4 การเช่าพื้นที่ว่างเพื่อทำธุรกิจขายรถยนต์มือสองคิดค่าเช่ากันอย่างไร
ตอบ พื้นที่เช่าแล้วแต่ทำเล แต่ตกเฉลี่ยคร่าวๆอยู่ที่ 200 บ. ต่อ ตรม. ส่วนใหญ่ ล็อคละ 200 ตรม. รวมสำนักงาน จอดรถได้ประมาณ 12-15 คัน
 5 ทำเลที่เหมาะสมในการเปิดกิจการ คือทำเลใด
ตอบ ย่านทำเล แล้วแต่คุณจะเลือกขายรถยนต์ประเภทไหน A+ถึง B ก้อ รัชดา , พระราม 9 ,ลาดพร้าว , แจ้งวัฒนะ อะไรเป็นต้น
 6 ที่มองไว้คือ ย่านถนนศรีนครินทร์ มีความเหมาะสมหรือไม่
ตอบ ย่านศรีนครินทร์ เป็นตลาดรถยนต์ B + ลงมา น่าจะ work
 7 ย่านดังกล่าวมีอัตราค่าเช่าเท่าใด
ตอบไปในข้อ 4 แล้ว
 8 การเปิดกิจการขายรถยนต์มือสองต้องขออนุญาตต่อหน่วยราชการใดหรือไม่
ตอบ ไม่ต้องทำอะไร เมื่อคุณ เปิดเต้นท์ ปุ๊บ ให้โทรหา บ.ไฟแนนซ์ เพื่อทำการเปิดหัว ก้อจะมี จนท. ไฟแนนซ์ วิ่งมาหาคุณเอง เมื่อมี ลูกค้าต้องการซื้อเงินผ่อน คุณก้อแจ้งให้ บ.ไฟแนนซ์ที่ คุณเปิดหัว กับเค้า เข้ามาจัดสินเชื่อได้เลย ขอรับ
 9 การจัดไฟแนนซ์มีขั้นตอนอย่างไร
ตอบ ขั้นตอน คุณ คุยกับ จนท.ไฟแนนซ์ ที่ คุณเปิดหัวกับเค้าได้เลย
 10 เจ้าของเต็นท์รถต้องทำอย่างไร เมื่อลูกค้าต้องการซื้อรถยนต์เงินผ่อน
ตอบไปแล้วข้อ8 
11 การติดต่อกับบริษัทไฟแนนซ์ต้องมีเงื่อนไขอย่างไรบ้าง
 ตอบ ไม่มีเงื่อนไข ใดๆ เป็นผลประโยชน์ ต่างตอบแทน คุณจะได้รับรายละเอียด โดยสอบถามที่ จนท. ไฟแนนซ์ได้เลย
 12 บริษัทไฟแนนซ์มีบริการจัดไฟแนนซ์นอกสถานที่หรือไม่
ตอบ มี ครับ 
13 การทำสัญญาซื้อขายรถยนต์ การจดทะเบียนโอนกรรมสิทธิ์ การทำประกันภัย มีขั้นตอนอย่างไร
 ตอบ ข้อนี้ ขั้นตอนเยอะ คุณจะต้องใช้เวลาศึกษาด้วย รู้สึกจะมีกระทู้ย้อนหลัง ลองเปิดๆ อ่านดู (หรือไม่สอบถามจากเพื่อนๆ ที่เปิดเต้นท์)
14 ทำไมเต็นท์ขายรถยนต์มือสองทุกแห่ง มีรถยนต์มือสองขายเกือบทุกยี่ห้อ จะขายเพียงหนึ่งยี่ห้อเหมือนกับโชว์รูมขายรถป้ายแดงได้หรือไม่
 ตอบ อันนี้ ตามใจ ใครใคร่ ค้า ช้าง ค้า ใครใครค้า ม้า ค้า
 15 ถ้าจะขายหลายยี่ห้อ แต่ขายรถยนต์เพียงหนึ่งสัญชาติเช่น สัญชาติญี่ปุ่น สัญชาติเกาหลี หรือสัญชาติอเมริกัน สัญชาติใดสัญชาติหนึ่งจะได้หรือไม่ 
ตอบไปแล้ว ข้อ 14
16 แนวโน้มของธุรกิจรถยนต์มือสองในปัจจุบันเป็นอย่างไร ขายได้กำไรบ้างหรือไม่ ... ท่านผู้รู้ทั้งหลายที่มีประสบการณ์ในธุรกิจรถยนต์มือสอง 
 ตอบ แนวโน้มในอนาคต เป็นอย่างไร อันนี้ แมง วิเคราะห์ ไม่ขาด นะ แต่ ก้อเห็นมีตลาดรถยนต์ มือสอง ผุดขึ้นมาเรื่อยๆ แล้วก้อ จะกำไร หรือ ขาดทุน มันขึ้น อยู่กับระบบการบริหารการเงิน เป็นส่วนสำคัญ ถ้าเงินทุนส่วนตัว เยอะ ต้นทุนเงินกู้ก้อ ต่ำ ความเสี่ยง ก้อลดลง แต่ ถ้าต้นทุนส่วนใหญ่ เป็นเงินกู้ อันนี้ ก้อเหนื่อย หน่อย เพราะ รถที่เข้ามาก้อต้องรีบขาย ตั้งราคา สูง ๆ เผื่อ เก็งกำไร มากๆ ก้อ ไม่ได้ รถยนต์มือสอง เป็นธุรกิจ ที่ เห็น เม็ดเงินค่อนข้าง ไว แต่ ความเสี่ยงก้อเยอะ แมง ว่า ลองค่อยๆ ศึกษาๆไปก่อน หรือ อาจจะ ทดลอง ซื้อรถมาขาย ที่บ้านไปก่อน เพื่อ ดูวิธีการหรือ รายละเอียด ก่อน ที่ จะไปคิดทำการใหญ่ ปล. ทั้งหมดนี้ บังเอิญ อาศัย ความรู้เก่าๆ ที่เคยคลุกคลี กับ บริษัทไฟแนนซ์ แล้ว ก้อ วงการรถยนต์ มานิดหน่อย อาจจะไม่ถูกต้อง ซ่ะทีเดียว ลอง อ่านแล้ว ประยุกต์ใช้กับสิ่งที่คุณได้ศึกษา มาเพิ่มเติมแล้ว กัน นะครับ

 ตามประสบการณ์เป็นการวางแผนแบบสำเร็จรูปนะครับออกจะเสี่ยงไปหน่อยเพราะหัวใจของปัญหานั้นคุณไม่เอ่ยถึงเลยเช่นการสร้างความน่าเชื่อถือหรือการหารถมาขาย(อาจจะเก่งอยู่แล้ว)เพราะถ้ามองการเปิดแบบรวดเร็วสำเร็จรูปง่ายสุดก็ไปติดต่อเต็นท์ใหญ่ๆขอเปิดสาขาย่อยอันนี้ง่ายสุดและสำเร็จรูปด้วย แต่ถ้าคิดจะทำเองดูจากที่ถามเหมือนไม่ได้คลุกคลีวงการนี้เท่าไหร่ถ้าใช่ละก็น่าจะเข้าไปศึกษาอย่างจริงจังโดยอาจจะเริ่มจากเป็นพนักงานขายในเต็นท์ก่อน-สมัครไปทำงานฝ่ายสินเชื่อ-ตีซี้อู่ ซึ่งอาจจะมองเป็นเรื่องต่ำกว่าฐานะก็จริงแต่โดยส่วนตัวแล้วผมว่าพื้นฐานดีโอกาสที่จะโดนแหกตาหรือเจ็บตัวก็น้อยลงครับ

 การทำธุรกิจเต็นท์รถไม่ใช่ของง่ายแล้วก็ของยากแต่มันอยู่ที่ใจรักและก็ประสบการณ์ และต้องซื่อสัตย์ต่อลูกค้าเพราะจะทำให้คุณประกอบธุรกิจประเภทนี้ได้นานๆ ไม่ใช่เพียงฉาบฉวยเพราะการขายรถยนต์ไม่ใช่ขายขนมหรือของใช่ทั่วไปลูกค้าบางคนต้องเก็บเงินมาตั้งนานเพื่อจะซื้อรถสักคัน บางคนคิดซื้อรถก่อนที่จะซื้อบ้านทั้งๆ ที่ยังไม่มีบ้านอยู่